มาริโอคาร์ต 8 ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกเป็นส่วนใหญ่ นินเทนโดได้มีการรายงานถึงคะแนนว่า"ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์"[4] และได้รับ 88/100 คะแนนจากเว็บไซต์เมตาคริทิค รวมถึง 88.26% จากเว็บไซต์เกมแรงกิงส์[14][15] และได้รับการวิจารณ์โดยเว็บไซต์ยูโรเกมเมอร์ว่าเป็น "เกมที่มีชีวิตชีวามากที่สุดของเกมแข่งรถบนเครื่องคอนโซลแห่งปี" เกมได้รับการยกย่องอย่างสูงสำหรับ "รายละเอียดที่สวยงาม", ความรู้สึกมากมายถ้าเทียบจากขนาด, ซาวด์แทร็กเพลงที่ดัดแปลงใหม่ ตลอดจนรูปแบบการเล่น[17] ส่วนดิจิตอลฟาวดรีได้ลงความเห็นว่า "อยู่ใกล้ความสมบูรณ์" และ "ใส่ใจในรายละเอียดที่มหัศจรรย์", โดดเด่นด้วย "บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม" และ "ความสามารถในการเล่นที่น่าหลงใหล" "คุณลักษณะการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้านความเรียบเนียนของการเคลื่อนไหวและรูปแบบการเล่นโดยรวมเหล่านั้น มีประสิทธิภาพโดยทั่วไปสูงถึง 59 ถึง 60 เฟรมต่อวินาที กับโหมดการแบ่งหน้าจอที่มีประสิทธิภาพ 30 เฟรมต่อวินาที เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม"[25] เว็บไซต์เกมสปอตยังได้ชื่นชมรูปแบบทั่วไปของเกม แต่ได้วิจารณ์โหมดแบทเทิลของเกมที่ใช้สนามทั่วไปที่ใช้แข่ง แทนที่จะเป็นสนามเฉพาะเหมือนที่มาริโอคาร์ตภาคก่อนๆ[20]

ไม่นานหลังจากเกมนี้ได้รับการเปิดตัวในสหราชอาณาจักร ก็ได้มีการประกาศว่ายอดจำหน่ายของเครื่องวียูได้เพิ่มขึ้น 666% พร้อมกับชุดมาริโอคาร์ต 8 คิดเป็น 82% ของจำนวนทั้งหมดที่จำหน่าย[26] นอกจากนั้น ในช่วงสี่วันแรกของการจำหน่าย ได้มีการจำหน่ายออกไป 1.2 ล้านชุดทั่วโลก ส่งผลให้เป็นเกมบนวียูที่สามารถทำยอดขายต่อวันได้มากที่สุด[27] และภายในช่วงไม่ถึงหนึ่งเดือนของการเปิดตัว มาริโอคาร์ต 8 ก็สามารถทำยอดจำหน่ายได้ถึง 2 ล้านชุดทั่วโลก[28]

สิ่งสืบเนื่อง

"ลุยจิ เดท สเตย์" เป็นอินเทอร์เน็ตมีมที่แสดงถึงการแสดงออกทางสีหน้าโดยอัตโนมัติของลุยจิ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่สามารถเล่นได้ และเป็นตัวละครร่วมของแฟรนไชส์มาริโอ ซึ่งจะปรากฏในขณะที่ตัวละครอื่น ๆ ถูกลุยจิโจมตีระหว่างการแข่ง โดยได้แสดงให้เห็นในยูทูบ และภาพเคลื่อนไหว GIF หลายชุด[29][30][31][32] การปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ออกข่าวในสถานีข่าวฟ็อกซ์ในประเทศในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 [33][34] ยิ่งไปกว่านั้น ลุยจิ เดท สเตย์ยังถูกโชว์โดยนินเทนโดในงานดิจิตอล อีเวนท์ที่อิเล็กทรอนิกเอ็นเตอร์เทนเมนต์เอ็กซ์โป 2014 [35] เว็บไซต์เวนเจอร์บีตได้ยกย่องต่อการจัดการมีมของนินเทนโด โดยตั้งข้อสังเกตว่า "มันเป็นวิธีที่ยอมรับวัฒนธรรมของแฟน ๆ อย่างแนบเนียน โดยไม่ได้เป็นการละเลยไปจากพวกเขาเหล่านั้น"[36]